Data Recovery กู้คืนข้อมูล
+ Deleted Files Recovery
+ Data recovery from Hard Disk
+ Data recovery from USB / Memory Card
+ RAID Data Recovery
+ Cell Phone / Smartphone Recovery
Data Recovery
กู้คืนไฟล์ที่ถูกลบ
เราต้องเผชิญกับความผิดพลาดเช่นนี้ในชีวิตประจำวัน ทุกวันนี้เราใช้อุปกรณ์ในการเก็บข้อมูลมากขึ้น และความเป็นไปได้ในการประสบปัญหาจากความผิดพลาดของผู้ใช้เอง, ไวรัส หรือ สปายแวร์ (spyware) เพิ่มขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน
ลบไฟล์โดยไม่ได้ตั้งใจ – ฉันต้องการไฟล์ที่ฉันลบมันไป
มีหลายครั้งที่เราลบไฟล์ไปโดยที่เราไม่ได้ตั้งใจ หลังจากนั้นเราก็ลบไฟล์ทั้งหมดออกจากถังขยะ (recycle bin) ผลที่ได้คือเราสูญเสียข้อมูลที่มีค่านั้นไป หรือ กรณีที่เราลบไฟล์ที่สำคัญทิ้งแล้วนึกออกหลายวันหลังจากนั้นว่าเราไม่ได้ทำสำเนาไฟล์นั้นไว้
ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ การกู้คืนไฟล์ที่คุณลบยิ่งยากมากยิ่งขึ้น ยิ่งระบบปฏิบัติการ (OS) เขียนข้อมูลใหม่ลงบนฮาร์ดดิสก์หรือบน USB ไดร์ฟของคุณ โอกาสที่จะนำไฟล์นั้นกลับมายิ่งยาก
เหตุผลคือเมื่อคุณทำการบันทึกข้อมูลลงบนฮาร์ดดิสก์ นอกจากมันจะทำการบันทึกข้อมูลลงบนแผ่นข้อมูลแล้วมันยังมีการบันทึกการเข้าออกในตารางข้อมูลหลักของดิสก์ (master file table - MFT) อีกด้วย เมื่อเราลบไฟล์ระบบจะลบการบันทึกการเข้าออกส่วนนั้นออกจากตารางข้อมูลหลักแต่ไม่ลบข้อมูลตัวจริงที่อยู่บนแผ่นข้อมูลทิ้ง ตำแหน่งของข้อมูลนั้นถูกจัดเก็บโดยระบบปฏิบัติการ การจัดเก็บของมันเป็นระบบสุ่มซึ่งเป็นโอกาสที่ไฟล์ที่ถูกบันทึกใหม่อาจจะเข้ามาแทนที่ไฟล์ที่เพิ่งถูกลบไปได้
ดังนั้นหากคุณลบไฟล์ทิ้งไปและคุณหามันไม่เจอ Thai Data Recovery สามารถช่วยคุณได้ หยุดการใช้งานสื่อตัวนั้นและติดต่อเราโดยเร็วที่สุด
มีเว็บบอร์ดและโปรแกรมแจกฟรีพร้อมขั้นตอนอธิบายวิธีการกู้ข้อมูล ทำไมฉันจึงต้องใช้บริการบริษัทกู้คืนข้อมูล
กรณีที่กล่าวถึงข้างต้นนั้นหมายถึงการกู้ข้อมูลทางตรรกะ (Logical Data Recovery) ขั้นตอนดังกล่าวสามารถทำได้ด้วยวิธีการทางซอฟแวร์ และ ทำการโคลน (Cloned) สื่อเก็บข้อมูลด้วยวิธีการทางฮาร์ดแวร์โดยจะทำสำเนาทีละ sector และป้องกันการบันทึก หลังจากนั้นเราจึงทำการกู้ข้อมูลทางตรรกะจาก image ของดิสก์ ไม่ใช่จากดิสก์ของลูกค้าโดยตรง
มีโปรแกรมเพื่อการกู้ข้อมูลทางตรรกะมากมายบนอินเทอร์เน็ต บางโปรแกรมยังเป็นโปรแกรมที่แจกฟรีอีกด้วย อีกทั้งยังมีเว็บบอร์ด กระทู้มากมายที่ถกเกี่ยวกับการกู้ข้อมูล
ที่ Thai Data Recovery เรามีข้อกำหนดที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดในการลงมือกู้ข้อมูลทางตรรกะเหล่านี้ เพื่อกู้คืนข้อมูลของลูกค้าให้ได้มากที่สุด กระบวนการเหล่านี้ไม่ได้ถูกเขียนในเว็บบอร์ดใดๆ และไม่สามารถทำได้ด้วยซอฟแวร์ที่เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายและมีราคาย่อมเยาว์
นั่นหมายความว่าถ้าคุณพยายามที่จะใช้เทคนิคต่างๆ ที่คุณพบบนอินเทอร์เน็ต คุณอาจจะไม่สามารถกู้ข้อมูลทั้งหมดจากฮาร์ดดิสก์ได้ ในความเป็นจริงการที่คุณข้ามขั้นตอนที่สำคัญบางอย่างไป อาจส่งผลให้คุณเสียไฟล์อย่างถาวรทั้งๆ ที่ไฟล์เหล่านั้นสามารถกู้ได้หากคุณใช้บริการช่างผู้ชำนาญ
หลายคนที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับไฟล์ที่สูญหายไปมากนัก อาจลองทำการกู้ข้อมูลบางส่วนด้วยโปรแกรมแจกฟรี แต่ถ้าข้อมูลของคุณมีความสำคัญมากต่อบริษัท หรือต่อตัวคุณเอง คุณจะไม่ยอมเสี่ยงและยอมรับได้กับการที่คุณจะได้รับข้อมูลคืนเพียงแค่ส่วนหนึ่งหากเทียบกับข้อมูลที่คุณจะได้หากคุณใช้บริการมืออาชีพ
ฉันทำการล้างข้อมูลบนเครื่องของฉัน และไฟล์ทั้งหมดของฉันได้หายไป
อีกกรณีที่เราพบบ่อยและโอกาสที่เราสามารถกู้ข้อมูลคืนมีสูงมาก ถ้าเราได้รับดิสก์นั้นทันทีหลังจากคุณได้ทำการล้างข้อมูลทั้งดิสก์หรือส่วนหนึ่งของดิสก์ (partition) ที่เก็บข้อมูลสำคัญนั้นอยู่ ข้อสำคัญคือคุณต้องนำดิสก์ตัวนั้นส่งมอบให้เราโดยเร็วที่สุด ยิ่งคุณใช้งานมันนานขึ้นเท่าไหร่ โอกาสที่คุณจะได้ข้อมูลที่คุณสูญเสียคืนนั้นยิ่งลดลง ติดต่อฝ่ายช่างของเราเพื่อขอคำแนะนำในกรณีที่คุณพลาดทำการล้างข้อมูลจากฮาร์ดไดร์ฟ, เมมโมรี่การ์ด (memory card)(SD, Micro SD), USB ไดร์ฟ, หรือ จากโทรศัพท์ของคุณโดยไม่ได้ตั้งใจ
มีไวรัสอยู่ในเครื่องฉัน และฉันไม่สามารถที่จะเข้าถึงไฟล์ของฉันได้
ปัจจุบันไวรัสหรือสปายแวร์ส่วนใหญ่จะไม่ทำลายข้อมูลของคุณ นั่นหมายความว่ามันอาจจะส่งผลกระทบต่อระบบ, ทำให้ไม่สามารถเริ่มการใช้งานได้ แต่ไม่มีความเสียหายต่อตัวข้อมูล แม้ในกรณีที่ไฟล์ได้รับผลกระทบจากไวรัส (โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ Office ไฟล์ เช่น word, excel, access ฯลฯ) ไวรัสเหล่านั้นมักถูกกำจัดได้โดยไม่ส่งผลกระทบกับไฟล์
ดังนั้นเมื่อระบบของคุณไม่สามารถเริ่มการใช้งานได้ หรือคุณไม่สามารถเข้าถึงไฟล์ของคุณได้ กรุณาโทรหาเรา เรามีทางออกที่ดีให้คุณ ขึ้นอยู่กับความสำคัญของข้อมูลของคุณ
เราให้บริการกู้คืนข้อมูลจากระบบปฏิบัติการเหล่านี้
บริษัทของเราสามารถกู้ข้อมูลจากระบบปฏิบัติการทุกตัว รายการด้านล่างที่คุณเห็นนั้นเป็นระบบปฏิบัติการที่เราพบเจออยู่เป็นประจำ
- Microsoft Windows® : 3.x
- Windows Vista
- Linux
- UNIX
- Sun
- SCO
- SGI
- NetWare
- DOS
- Apple Mac
- OS/2
- VAX/VMS
- Solaris
- HPUX
- AIX
หากข้อมูลของคุณมีความสำคัญสำหรับคุณ มันคงเป็นเรื่องที่ไม่สมควรถ้าคุณจะลองใช้เคล็ดลับต่างๆ ที่พบตามอินเทอร์เน็ตในการกู้ข้อมูล คุณอาจจะประหยัดเงินได้ไม่กี่บาท แต่มันคุ้มกันเลยหากคุณพบว่าคุณเสียโอกาสที่จะได้ข้อมูลบางส่วนกลับมา หยุดใช้งานสื่อบันทึกข้อมูลของคุณและติดต่อเราทันที
กู้คืนข้อมูลจากฮาร์ดดิสก์
• ฮาร์ดดิสก์ของฉันมีปัญหา
• ฮาร์ดดิสก์ของฉันไม่ทำงาน
• BIOS ไม่ยอมรับฮาร์ดดิสก์
• ฉันได้ยินเสียง “แต็ก แต็ก” จากฮาร์ดดิสก์ของฉัน
• ไม่มีสัญญาญไฟเข้าฮาร์ดดิสก์
• ฉันทำข้อมูลสำคัญหาย และฉันไม่ได้ทำการสำรองมันไว้ด้วย
หากคุณประสบปัญหากับฮาร์ดดิสก์และคุณไม่มีการสำรองข้อมูลไว้ อย่าเพิ่งหมดหวัง!! ห้องปฏิบัติการกู้คืนข้อมูลสามารถกู้ข้อมูลจากสื่อบันทึกข้อมูลเนื่องจากกลไกบกพร่องหรือเนื่องจากแผ่นปริ๊นมีปัญหา (print circuit board - PCB) ได้
หากคุณต้องการทราบว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นจัดอยู่ในประเภทใด ตารางด้านล่างได้อธิบายถึงอาการของความเสียหายประเภทต่างๆ และเปรียบเทียบกับอาการที่สื่อบันทึกข้อมูลของคุณกำลังประสบ
ข้อมูลสูญหาย
A. ฮาร์ดไดร์ฟมีความสมบูรณ์ดี แต่มีไฟล์สูญหาย
การกู้ข้อมูลแบบตระกะคือกระบวนการที่เราสามารถกู้ข้อมูลที่สูญหายจากฮาร์ดไดร์ฟที่สมบูรณ์ ตัวอย่างปัญหาที่พบมากในความเสียหายประเภทนี้:
• Partition หาย – เกิดเหตุขัดข้องในขณะที่กำลังแบ่ง partition
• ความเสียหายบน partition – หา partition ไม่เจอ หรือ partition ถูกลบ
• ข้อมูลถูกลบโดยความผิดพลาด
• ข้อมูลถูกไวรัส หรือ สปายแวร์เล่นงาน
• อีเมลถูกลบ
• อีเมลสูญหาย (จาก Outlook express, Thunderbird ฯลฯ) – ไฟล์ตระกูล .pst มีปัญหา
• ปัญหาจากฐานข้อมูล – ไม่สามารถเปิดไฟล์ sql หรือ mdb ได้
• บันทึกข้อมูลซ้ำ
• เอกสารถูกลบ
ปัญหาจาก Firmware
B. ปัญหาเกิดจากโปรแกรมภายใน (เฟิร์มแวร์) ของฮาร์ดดิสก์
• ดูเหมือนว่าฮาร์ดดิสก์มีการหมุนแต่ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้
• จู่ๆ ฮาร์ดดิสก์ของฉันก็ได้หายไปจากระบบ
• ฮาร์ดไดร์ฟของฉันแสดงผลว่ามีความจุ 0 กิ๊กกะไบท์
• ฮาร์ดไดร์ฟของฉันแสดงข้อความว่ามันต้องการถูกล้างข้อมูล (format)
• ไม่สามารถเริ่มการใช้งานฮาร์ดดิสก์ได้ มันมีเสียง “ติ๊ก ติ๊ก” เกินขึ้นภายใน – Click of Death
ปัญหาแผงวงจร
C. ปัญหาเกิดจากแผงวงจรภายในฮาร์ดดิสก์
ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับแผงวงจรไฟฟ้าของฮาร์ดดิสก์
• ชิปไหม้
• มีกลิ่นไหม้จากแผงวงจร
• ความร้อนบนแผงวงจรไฟฟ้าของฮาร์ดดิสก์สูงเกิน
• ฮาร์ดดิสก์ไม่หมุนเมื่อเริ่มการใช้งาน
• ฮาร์ดดิสก์ไม่ได้รับการจ่ายไฟ
ปัญหากลไกในตัวฮาร์ดดิสก์
D. ปัญหาทางกลไก
ปัญหาที่เกิดจากกลไกภายในของฮาร์ดดิสก์ โดยทั่วไปแล้วจะพบอาการเหล่านี้
• มีเสียงแปลกๆ เกิดขึ้นจากฮาร์ดดิสก์
• ไม่สามารถเริ่มการใช้งานฮาร์ดดิสก์ได้ มันมีเสียง “ติ๊ก ติ๊ก” เกินขึ้นภายใน – Click of Death
• หัวอ่านมีปัญหา
• ฮาร์ดดิสก์มีเสียงดัง
• ฮาร์ดดิสก์ตกกระแทกและระบบปฏิบัติการไม่สามารถหาฮาร์ดดิสก์ได้
• ฮาร์ดดิสก์ตกกระแทกในขณะกำลังทำงาน
กู้คืนข้อมูลจาก USB / Memory Card / SSD
โดยทางเทคนิคแล้วเราเรียกการกู้ข้อมูลจากอุปกรณ์เก็บข้อมูลต่างๆ ด้านล่างนี้ว่าเป็นการกู้ข้อมูลจาก NAND ชิป
• การกู้คืนข้อมูลจาก USB ไดร์ฟ
• การกู้คืนข้อมูลจาก USB สติ๊ก
• การกู้คืนข้อมูลจากเมมโมรี่การ์ด
การกู้คืนข้อมูลจากอุปกรณ์เก็บข้อมูลแบบ USB หรือ การ์ดหน่วยความจำ
การกู้คืนข้อมูลจากเมมโมรี่การ์ดหรือ USB ไดร์ฟที่ไฟล์ถูกลบโดยบังเอิญ หรือ ถูกล้างข้อมูลโดยที่ไม่ได้ตั้งใจและไม่ได้มีการสำรองข้อมูลไว้
หากลูกค้าไม่ได้ทำการลองใช้ซอฟแวร์ช่วยเหลือในการกู้ข้อมูล เรามีโอกาสมากกว่า 95% ที่จะนำข้อมูลเหล่านั้นกลับมาให้คุณได้ แต่ถ้าคุณหรือช่างได้ทดลองใช้ซอฟท์แวร์ในการกู้ข้อมูลแล้ว มันอาจจะทำให้เราไม่สามารถกู้ข้อมูลเหล่านั้นคืนมาได้เลย
กรุณาอ่านเพิ่มเติมจาก “การกู้ข้อมูลทางตรรกะ”
ปัญหาจากแผงวงจรอิเล็คทรอนิกส์ภายใน USB ไดร์ฟ
โดยส่วนใหญ่แผงวงจรไฟฟ้าภายใน USB ไดร์ฟหรือเมมโมรี่การ์ดของคุณอาจเกิดปัญหาได้จากเหตุสิ่งแวดล้อมเหล่านี้ กระแสไฟฟ้าสถิตย์, ความชื้น, ความร้อนสูงหรือแม้กระทั่งการเข้าใกล้สนามแม่เหล็ก ในสถานการณ์เช่นนี้คุณไม่สามารถกู้คืนข้อมูลของคุณได้จนกว่าแผงวงจรดังกล่าวได้รับการซ่อมแซม หากความเสียหายนั้นมากกว่าที่จะซ่อมแซมได้ NAND ชิปจะถูกดึงออกจากแผงวงจรและทำถอดรหัสภายในห้องปฏิบัติการของเรา กระบวนการดังกล่าวนี้ใช้ระยะเวลานานและเป็นผลให้มีค่าใช้ที่จ่ายสูงขึ้นตามลำดับ
การถอดรหัส NAND Chips
เมื่อไม่มีทางเลือกอื่นในการกู้ข้อมูลจาก USB ไดร์ฟหรือเมมโมรี่การ์ดของคุณแล้ว NAND chip จะถูกดึงออกจากแผงวงจรด้วยความระมัดระวัง ข้อมูลทั้งหมดในสื่อบันทึกความจำของคุณถูกฝังอยู่ใน NAND chip ตัวนี้ ดังนั้นมันจำเป็นจะต้องอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ มิฉะนั้นจะไม่สามารถทำการกู้ข้อมูลได้
ข้อมูลที่ถูกเก็บอยู่ในชิปตัวนี้มีการบันทึกด้วยระบบตัวเลขฐานสิบหกและถูกเข้ารหัส มันจะถูกถอดรหัสด้วยชิปควบคุมซึ่งความเสียหายส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นที่ตัวชิปควบคุมนี้ งานของเราจึงต้องอาศัยการดึงข้อมูลที่ถูกเข้ารหัส (Dump the NAND chip) แล้วจึงทำการถอดรหัสมันอีกครั้ง การถอดรหัสของ NAND chip นั้นบางกรณีอาจทำได้ง่ายและใช้เวลาเพียงแค่ 2-3 ชั่วโมง ในขณะที่บางกรณีทำได้ยากและอาจกินเวลาเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือนเพื่อที่จะถอดรหัสเหล่านั้น นั้นเป็นเหตุให้มีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นตามมา
ที่ห้องปฏิบัติการของ Thai Data Recovery นั้นเรามีงานกู้ข้อมูลจาก NAND ชิปเป็นจำนวนมาก ทั้งจากในและต่างประเทศ เนื่องจากเรามีความพร้อมทั้งทางด้านอุปกรณ์และมีความชำนาญในการถอดรหัส NAND chip สูง ทีมวิจัยค้นคว้าของเราได้ช่วยถอดรหัสชุดคำสั่งบน NAND chip กว่าหลายร้อยชุด พร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะในงานวิจัยค้นคว้าของบริษัทกู้ข้อมูลอื่นๆ และผู้ผลิตต่างชาติอีกด้วย ด้วยความร่วมมือจากประเทศรัสเซียและจีน และการเข้าร่วมในการประชุมระหว่างประเทศ ทีมวิจัยของ Thai Data Recovery สามารถกู้ข้อมูลจากกรณีที่เชื่อว่า “ไม่สามารถกู้คืนได้” อย่างสำเร็จ ตราบใดที่ NAND chip นั้นอยู่ในสภาพที่ดี
สามารถกู้ข้อมูลคืนจากอุปกรณ์เก็บข้อมูลชนิดใดได้บ้าง
สื่อต่างๆ ด้านล่างนี้ ล้วนแล้วแต่มี NAND ชิปหรือชิปที่คล้ายคลึงกันในการเก็บบันทึกข้อมูลของผู้ใช้ ดังนั้นความยากง่านนั้นขึ้นอยู่กับประเภทของชิป โดยเฉพาะ monolith ชิปยิ่งทำการกู้ได้ยากมากขึ้น (mini SD, xD, ฯลฯ)
บริษัทของเราสามารถกู้ข้อมูลจาก:
• การ์ดข้อมูลทุกชนิด
• SD
• Smart Media
• xD Media
• micro SD
• monolith chips
การกู้ข้อมูลจากโซลิตสเตดไดรฟ์ (SSD Disk)
SSD นั้นมีโครงสร้างคล้ายกันกับ USB ไดร์ฟ หลายคนเชื่อว่า SSD นั้นปลอดภัยกว่าในเรื่องของความแข็งแรงเพราะมันไม่มีส่วนที่ขยับได้เลย ข้อความดังกล่าวนั้นเป็นความจริงเพราะ SSD นั้นไม่มีหัวอ่านหรือไม่มีกลไกใดๆ ที่สามารถขยับได้เหมือนกับฮาร์ดไดร์ฟธรรมดาทั่วไป SSD ประกอบไปด้วยแผงวงจรที่เชื่อมวงจรต่างๆและส่วนหลักที่เก็บ NAND chip
SSD นั้นอาจไม่มีผลกระทบหากตกจากที่สูงหรือไม่มีโอกาสบกพร่องจากกลไกภายใน แต่มันสามารถรับผลการทบจากสิ่งเหล่านี้:
• กระแสไฟที่ไม่คงที่
• การหยุดการทำงานแบบไม่สมบูรณ์
• แรงดันไฟที่สูงเกินกำหนด
• กระแสไฟฟ้าสถิตย์
• ความชื้น
• สนามแม่เหล็กแรงสูง
ผู้ผลิต SSD ที่ได้รับความนิยมสูงขณะนี้คือ Sandisk, Toshiba, Intel และ OCZ หากคุณคำนึงถึงว่าราคาของ SSD นั้นสูง มันเป็นเรื่องง่ายที่จะเข้าใจได้ว่าการกู้ข้อมูลจาก SSD ทำได้ง่ายขึ้น
การกู้คืนข้อมูลจาก SSD นั้นคล้ายคลึงกับการกู้ข้อมูลจาก USB ไดร์ฟหรือเมมโมรี่การ์ด แต่ด้วยจำนวน NAND chip ที่สูงกว่าทำให้ยากลำบากมากขึ้นในการกู้คืนข้อมูลและใช้เวลานานขึ้นอีกด้วย นั่นเป็นผลให้ค่าบริการในการกู้คืนข้อมูลจาก SSD นั้นสูงมาก และใช้เวลาในการทำงานเวลามากกว่าสองสัปดาห์
การกู้คืนข้อมูลจากคลังข้อมูลระบบ RAID
ระบบ RAID นั้นเป็นที่นิยมสำหรับลูกค้ากลุ่มธุรกิจหรือองค์กรใหญ่ และ โดยทั่วไปแล้วระบบ R.A.I.D. นั้นประกอบไปด้วย SCSI หรือ SAS (Serial Attached SCSI) ฮาร์ดไดร์ฟ การกู้คืนข้อมูลจาก SCSI และ SAS ไดร์ฟนั้นมีขั้นตอนที่ทำได้ยากลำบากเนื่องจากโครงสร้างของไดร์ฟเหล่านั้นที่ต่อพ่วงฮาร์ดดิสก์เข้าด้วยกันเป็นระบบ RAID
Thai Data Recovery มีความเชี่ยวชาญในการกู้คืนข้อมูลจาก SCSI และ SAS
SCSI และ SAS นั้นเป็นฮาร์ดดิสก์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อนการใช้งานกับระบบเซิร์ฟเวอร์ (server) เพราะมันทำงานได้เร็วขึ้นและแม่นยำมากขึ้น Thai Data Recovery นั้นเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์สูงสุดในการกู้คืนข้อมูลจากสื่อเหล่านี้ เราได้ลงทุนจัดซื้ออุปกรณ์ในการวินิจฉัยที่สามารถรองรับ SCSI และ SAS เกือบทุกรุ่น ดังนั้นเราสามารถแจ้งให้คุณทราบภายใน 2-3 วันทำการว่าความเสียหายของ SCSI หรือ SAS ไดร์ฟของคุณนั้นคืออะไร เราได้รับงานที่เกี่ยวกับการกู้ข้อมูลจาก SCSI หรือ SAS มากกว่า 3 รายต่อเดือน และงานส่วนใหญ่นั้นสามารถแก้ได้ภายใน 5-15 วันทำการ ถ้า SCSI หรือ SAS ของคุณมีปัญหา Thai Data Recovery คือบริษัทบริการกู้คืนข้อมูลที่คุณสามารถให้ความไว้วางใจได้และคุณสามารถมั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุดต่อข้อมูลของคุณ ส่วนใหญ่แล้ว SCSI หรือ SAS นั้นถูกต่อเชื่อมกันเป็น RAID arrays และมักจะประกอบไปด้วยไดร์ฟมากกว่า 2 ตัวต่อเชื่อมกัน
ควรปฏิบัติอย่างไรเมื่อระบบ RAID ของคุณมีปัญหา
เมื่อระบบ RAID มีปัญหาการดำเนินการต่างๆ นั้นควรกระทำด้วยบุคคลที่มีความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีของระบบ RAID โดยเฉพาะ ก่อนที่จะเริ่มยุ่งกับระบบเซิร์ฟเวอร์หรือ NAS (Network Attached Storage) ที่ระบบ RAID ที่มีปัญหานั้นติดตั้งอยู่ มิฉะนั้นความผิดพลาดเพียงน้อยนิดอาจส่งผลให้คุณสูญเสียข้อมูลทั้งหมดของคุณได้ ระบบ RAID arrays ส่วนใหญ่เป็นระบบที่ใช้กันอย่างกว้างขวางในระบบคลังข้อมูลหรือระบบเซิร์ฟเวอร์สำรองข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสี่ยงที่จะเกิดความผิดพลาดเพราะการใช้งานอย่างซับซ้อนของผู้ใช้
ข้อควรระวังที่ช่างผู้ทำงานกับระบบ RAID ควรคำนึงถึงก่อนที่จะส่งมอบให้กับเรา:
• หากคุณต้องการที่สับเปลี่ยนไดร์ฟ ไดร์ฟที่คุณนำมาเปลี่ยนนั้นควรเป็นไดร์ฟใหม่ที่ไม่เคยใช้งานมาก่อน ห้ามนำไดร์ฟที่เคยใช้กับระบบ RAID อื่นมาแทนที่
• ติดฉลากบนสายที่เชื่อมโยงไดร์ฟต่างๆ และ บนตัวไดร์ฟเองด้วยปากกาที่ไม่สามารถลบได้ เนื่องจากคุณจำเป็นต้องให้ข้อมูลเหล่านี้กับบริษัทกู้คืนข้อมูลจาก RAID ได้ ทางที่ดีที่สุดที่ทำได้คือเมื่อคุณพบว่ามีปัญหาในระบบ RAID คุณควรนำระบบทั้งระบบมาส่งมอบให้ห้องปฏิบัติการที่จะทำการกู้ข้อมูลของคุณคืน
• คุณจำเป็นต้องส่งมอบตัวควบคุมระบบ RAID (RAID Controller) รวมไปถึงสายเคเบิ้ลต่างๆ มาที่ห้องปฏิบัติการของเรา และทางที่ดีที่สุดคือคุณไม่ถอดสายใดๆ ที่ถูกเชื่อมต่ออยู่เลย
• หาก SCSI หรือ SAS ไดร์ฟในระบบของคุณไม่มีเสียงการทำงาน หรือ มีเสียงประหลาดดัง “แต๊ก แต๊ก” เกิดขึ้น คุณควรรีบนำระบบของคุณส่งมอบให้กับเราที่ห้องปฏิบัติการทันที เพราะมันมักจะหมายความว่าไดร์ฟของคุณนั้นอยู่ในสภาพที่ไม่เสถียร
• เครื่องมือกู้ข้อมูลที่ใช้กันโดยทั่วไปนั้นไม่สามารถนำมาใช้งานกับการกู้ข้อมูลจากระบบ RAID ได้ และไม่ควรนำมาใช้เนื่องจากอาจส่งผลให้เกิดความเสียหายที่ไม่อาจกู้คืนได้
กรุณาติดต่อบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในทันที เพื่อทำการการกู้ข้อมูลจากระบบ RAID ของคุณ และไม่ควรทดลองทำการใดๆ เพราะระบบ RAID นั้นตอบสนองไวต่อปัญหาที่เกิดจากการทำงานที่ผิดพลาดของช่างผู้ดูแลเอง
ระบบ RAID นั้นถูกติดตั้งขึ้นเพื่อเหตุผลต่อไปนี้:
• เพื่อความปลอดภัยในข้อมูล - เนื่องจากระบบ RAID สามารถทำการบันทึกลงในไดร์ฟมากกว่าหนึ่งไดร์ฟในเวลาเดียวกัน
• เพื่อความรวดเร็ว – เนื่องจากการบันทึกข้อมูลสามารถกระทำได้บนไดร์ฟสองตัวพร้อมๆ กัน นั่นทำให้ความมันเร็วกว่าการทำงานทั่วไปเกือบสองเท่า
• เพื่อความปลอดภัย และความรวดเร็ว
ที่ห้องปฏิบัติการของ Thai Data Recovery เรามีความเชี่ยวชาญใน RAID Servers และ SCSI RAID Servers
เนื่องจาก SCSI ไดร์ฟ และ ระบบ RAID นั้นมีราคาแพง จึงเป็นที่นิยมใช้ภายในองค์กรที่ต้องการความแม่นยำในระบบเซิร์ฟเวอร์สำรองข้อมูลสูงและเพื่อความปลอดภัยสูงสุดกับข้อมูลที่ถูกบันทึก ดังนั้นเราจึงไม่ค่อยพบปัญหาจาก ATA RAID, SATA RAID, SCSI RAID และ SAS RAID
ในอดีต การกู้คืนข้อมูลจากระบบ SCSI และ SAS นั้นจะถูกส่งไปยังห้องปฏิบัติการในบริษัทแม่ของเราที่ต่างประเทศจนถึงปีพ.ศ. 2550 หลังจากนั้นคณะบริหารของบริษัท Thai Data Recover ได้เล็งเห็นถึงการเติบโตของตลาดจึงได้มีการลงทุนจัดซื้ออุปกรณ์เฉพาะเพื่อการกู้ข้อมูลจาก SCSI RAID และ SAS RAID ในห้องปฏิบัติการของเรา (กรุณาติดต่อเราหากคุณต้องการใช้บริการการกู้คืนข้อมูลจากกรณีเหล่านี้)
การกู้คืนข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือ
เหตุการณ์เช่นนี้เป็นเรื่องปกติในปัจจุบัน โทรศัพท์สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ใช้เมมโมรี่การ์ด (micro SD, เมมโมรี่การ์ด ฯลฯ) ในการเก็บบันทึกรูปภาพ, วีดีโอ ฯลฯ หรือบางรุ่นมีการใช้หน่วยความจำภายในในการเก็บข้อมูลเหล่านั้น
การกู้คืนข้อมูลจากโทรศัพท์ Android
Android คือระบบปฏิบัติการที่ใช้บนอุปกรณ์มือถือ เช่น สมาร์ทโฟน, แท๊บเล็ต (tablet computer) ที่ใช้ Linux การกู้คืนข้อมูลจากโทรศัพท์หรือแท๊บเล็ตระบบ Android นั้นมีกระบวนการที่ละเอียดอ่อนและต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่ถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจน มิเช่นนั้นคุณอาจจะสูญเสียข้อมูลเหล่านั้นอย่างถาวรได้ ลูกค้าหลายๆ ท่านได้พยายามที่จะกู้ข้อมูลเหล่านั้นคืนด้วยตนเองก่อนที่จะส่งมอบให้เรา ในกรณีดังกล่าวเราแทบไม่สามารถกู้ข้อมูลคืนได้เลย ดังนั้นหากคุณลบข้อมูลจากโทรศัพท์ Android ของคุณโดยไม่ได้ตั้งใจแล้ว คุณไม่ควรที่จะลองทำตามขั้นตอนต่างๆ ที่พบบนอินเทอร์เน็ตในการกู้ข้อมูลเหล่านั้นกลับมาด้วยตนเอง หากคุณได้ทำอะไรผิดพลาดไปแล้วแม้แต่บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการกู้ข้อมูลก็ไม่สามารถช่วยกู้ข้อมูลคุณคืนมาได้
การกู้คืนข้อมูลจากโทรศัพท์ iPhone
ที่ห้องปฏิบัติการของ Thai Data Recovery มีงานจำนวนมากที่เราได้รับเป็นโทรศัพท์ iPhone ที่ผ่านการ jailbreak มาแล้ว หรือโทรศัพท์ iPhone ที่ใช้ iOS แท้ที่มีอาการผิดปกติหรือมีการสูญหายของข้อมูล ในกรณีทั่วไปแล้วการกู้คืนข้อมูลจาก iPhone นั้นมีอัตราความสำเร็จสูง ด้วยสมมติฐานที่ผู้ใช้งานไม่ได้ใช้งานโทรศัพท์ iPhone เป็นระยะเวลานาน การกู้ข้อมูลคืนจาก iPhone นั้นต้องอาศัยอุปกรณ์เฉพาะเพื่อที่จะดึงข้อมูลได้มากที่สุดและไม่ส่งผลเสียหายต่อข้อมูลอื่นๆ ในโทรศัพท์
คำแนะนำสำหรับผู้ที่สูญเสียข้อมูลจากโทรศัพท์ Android หรือ iPhone
Download and print our Diagnostic form before you send us your media
or contact us for your FREE diagnostics.
In Case of Emergency
+66.2.652.0156